วีรบุรุษ…ชั่วคราว หรือ ถาวร

หากไม่เกิด “กบฏโจรโพกผ้าเหลือง” มีหรือที่ “เล่าปี่” ผู้บอบบาง จะได้เป็นถึงผู้นำ “จกก๊ก”
หาก “ลิฉุย กุยกี” ไม่แย่งกันเป็นใหญ่ มีหรือที่ “โจโฉ” จะมีโอกาสได้เป็นถึง “มหาอุปราช”
หากไม่ถูก “ก๊วยพู้” ตัดแขน มีหรือที่ “เอี้ยก้วย” จะได้พบสุดยอดวิชา “เก้ากระบี่ต๊กโกว”
หากไม่ช่วย “ยิ่นอั้วฮั้ง” จากคุกใต้ทะเลสาบ มีหรือที่ “เล่งฮู้ชง” จะได้ฝึก “มหาเวทย์ดูดดาว”
หาก “เมืองก็อธแฮม” ไม่เกิดความวุ่นวาย มีหรือที่ “บรูซ เวย์น” จะได้ต่อกรกับเหล่าร้ายในคราบ “แบทแมน”
หาก “แมงมุงไม่ถูกอาบกัมมันตรังสี” แล้วละก็ “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” จะกลายเป็น “สไปเดอร์ แมน” ได้อย่างไร

“สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” คำกล่าวนี้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเอ่ยทุกครั้ง เมื่อเหตุการณ์ที่อยู่ในขั้นวิกฤต ถูกคลี่คลายลงได้ด้วยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่เว้นแม้แต่ “วิกฤตที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด”
หลังจากไล่ตามตีเสมอสเปอร์ส อย่างหืดจับในช่วงก่อนนกหวีดยาวขานขึ้นเพียงไม่กี่วินาที และมาโดน “กากี่นั้ง” คนกันเองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาลูบคมถึงถิ่น เล่นเอายูไนเต็ด ต้องเผชิญกับสถานการณ์ลำบากถึงขั้นวิกฤต ไม่ว่าจะเป็น “วิกฤตการณ์ฟอร์มนักเตะร่วงกระฉูด” บรรดาพลพรรคปีศาจแดงที่เคยเล่นกันอย่างไหลลื่น กลับฟอร์มช็อตไปดื้อๆ จากราชสีห์ที่คอยตะครุบเหยื่อ กลายมาเป็นแมวเชื่องๆ ที่กัดใครไม่เข้า หรือแม้แต่ “วิกฤตการณ์ศรัทธาแฟนบอลหล่นวูบ” เมื่อเห็นทีมรักของตนเล่นกันอย่างน่าผิดหวัง ถึงขนาดต้องขุด “โครงการนักล่าแพะ” ขึ้นมาประกวดอีกครั้ง และก็เป็นอดีตฮีโร่จอมเก๋าทั้ง “สโคลส์” และ “กิ๊กซ์” ที่เบียดแย่งตำแหน่งกันอย่างสูสี ด้วยคุณสมบัติ “อายุขั้นสูง” และ “ช้าโดนใจ” แล้วยิ่งต้องมาทำศึกบิ๊กแมตช์ “ปีศาจ” ชน “ปืน” ในเกมเอฟเอ คัพ ซึ่งไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ จึงเป็นที่จับตามองกันว่ายูไนเต็ด จะกลับสู่ฟอร์ม หรือจะออกทะเลอย่างต่อเนื่อง
แต่แล้วก่อนเสียงนกหวีดเริ่มเกมจะดังขึ้น ดูเหมือนสถานการณ์ของยูไนเต็ด จะไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อต้องขาดนักเตะที่เป็นเหมือนหัวใจ และดาวซัลโวของทีมอย่าง “โรนัลโด้” ไปด้วยโรคกระเพาะ แถมการจัดผู้เล่นลงสนามของยูไนเต็ด ยังสร้างความประหลาดใจอย่างหนัก เมื่อทั้งนานี่ ที่ถูก “ปลาบู่” กัดจนฟอร์มบู่ตามไปด้วย และเฟลทเชอร์ “เจ้าชายผู้ถูกลืม” ล้วนถูกเลือกใช้งาน แม้ทั้งคู่จะได้รับยกย่องว่า “ยี้” จากแฟนบอลในระยะหลังก็ตาม ยิ่งเหมือนเป็นการซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกในสายตาแฟนบอล แต่หาใช่ในสายตาของผู้ชายชื่อ “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”

แล้วทั้งคู่ก็ไม่ทำให้ความไว้วางใจของท่านเซอร์ผิดหวัง เมื่อนานี่ทั้งลากเลื้อย จนพลพรรค “กันเนอร์” วิ่งไล่เตะบอลออกข้างสนามเป็นว่าเล่น ทั้งเปิดบอลริมเส้นตัดแผงหลัง “ปืนโต” หลายต่อหลายครั้ง จนเข้าหัวเฟลทเชอร์ เป็นประตูทั้งสองครั้งสองครา แถมยังส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายได้สำเร็จ หลังห่างหายจากรายชื่อผู้ทำประตูมาเกือบ 4 เดือน
และที่ลืมไม่ได้ นักเตะที่กำเนิดมาเพื่อล้มทีมยักษ์โดยแท้ ดาร์เรน เฟลทเชอร์” แม้ฤดูกาลนี้ “เจ้าชายสก๊อตต์” จะกลายเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายในแผงมิดฟิลด์ ของยูไนเต็ด หลังจากออกสตาร์ทในฐานะ 11 คนแรก เพียง 7 นัดเท่านั้น น้อยกว่าผู้รักษาประตูสำรองอย่าง “คุสซ์แชค” เสียอีก แต่สำหรับนัดนี้ เฟลทเชอร์ สวมวิญญาณซุปเปอร์ฮีโร่ตัวจริงเสียงจริง เมื่อเจ้าตัวรับหน้าที่ปิดทองทั้งด้านหลัง และด้านหน้าองค์พระปฏิมาอย่างไร้ที่ติ จากการสกัดกั้นการทำเกมของแนวรุกปืนใหญ่จนอยู่หมัด และจัดการโหม่งทะลวงตาข่ายปืนโตไปถึงสองเม็ด ส่งผลให้ “สาวกกันเนอร์” สงบปากสงบคำไปในบัดดล
สำหรับนัดนี้ เฟลทเชอร์ ถูกยกย่องให้เป็น “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” จากสาวกปีศาจแดงอย่างไร้ข้อครหา รวมไปถึงนักเตะคนอื่นๆ ที่มีโอกาสได้ลงสนาม ก็ได้รับการกล่าวถึงไม่แพ้กัน ไม่เว้นแม้แต่ผู้เล่นที่ไม่มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” แต่ในรายหลังนี้กลับไม่ใช่การสรรเสริญอย่างเพื่อนร่วมทีมคนอื่น
“โรนัลโด้” ถูกยกย่องให้เป็น “วิกฤต” ที่ช่วยให้เพื่อนเปลี่ยนเป็น “โอกาส” ในที่สุด หลายเสียงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากปีกจอมสับอยู่ในสนาม ผลการแข่งขันอาจเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ “การลากเลื้อย” ที่เคยได้รับความชื่นชม กลายมาเป็น “ฟุตบอลชายเดี่ยว” ที่แสนเอือมระอา จาก “วีรชน” กลายเป็น “ทรชน” ไปในชั่วข้ามคืน

ก็ได้แต่หวังว่า เฟลทเชอร์ จะได้รับการยกย่องเยี่ยงวีรบุรุษอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ และอย่าให้สถานการณ์นำพาวีรบุรุษ จนกลายเป็น “บุคคลที่ไม่เป็นที่ต้องการ” จากคนที่เขาเคยได้รับการยกย่อง
แม้ “เล่าปี่” จะเสียงเมืองชีจิ๋วให้ลิโป้ แต่ก็ยังมี “กวนอู” และ “เตียวหุย” เป็นพี่น้องร่วมสาบาน
แม้ “โจโฉ” จะทรยศต่อคนทั้งโลก แต่ก็ยังมี “ซุนฮก” เป็นกุนซือคู่บารมี
แม้ “เอี้ยก้วย” จะไม่ได้รับความไว้ใจจากชาวยุทธทุกคน แต่ก็ยังมี “เซียวเหล่งนึ่ง” ที่เชื่อใจอยู่ตลอด
แม้ “เล่งฮู้ชง” จะถูกขับไล่จากผู้เป็นอาจารย์ แต่ก็ยังมี “ยิ่นอิ๋งอิ๋ง” ข้างกายเสมอ
แม้ “แบทแมน” จะสูญเสียบิดามารดาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ยังมี “อัลเฟลด” ที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง
แม้ “สไปเดอร์ แมน” จะพบกับความสับใจในชีวิตมากมาย แต่ก็ยังมีกำลังใจจาก “แมรี่ เจน” อยู่เสมอ
“เฟลทเชอร์” ก็คงไม่ต่างจากวีรบุรุษคนอื่นๆ ที่ต้องการกำลังใจจาก “สาวกปีศาจแดง” เมื่อยามเขาต้องเผชิญกับความล้มเหลว และหวังที่จะเป็นวีรบุรุษ “ถาวร” ไม่ใช่วีรบุรุษ “ชั่วคราว” หรือแค่ “ค้างคืน”
chokechone11

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Copyright © 2024 businessmed-med. All Right Reserved.